[QZGS Fic] ไกลเกินพันลี้ [เยี่ยหลาน]
Fandom : Quan Zhi Gao Shou เทพยุทธ์เซียน Glory
Pairing : เยี่ยซิว x หลานเหอ , หวงเส้าเทียน x อวี้เหวินโจว
Note : AU แนวย้อนยุคโบราณ สมัยเจ็ดแคว้นของจีน มีความเมากาวและยำใหญ่พอประมาณจากเจ็ดมาเหลือห้า ด้วยความขี้เกียจค่ะ ชื่อฟิค เชียนหลี่จือไว่ (千里之外) ไกลเกินพันลี้ มาจากการคว้านหาตัวเสี่ยวหลานของพี่เยี่ย *me จริงๆ จิ้มๆ มาจากชื่อเพลงจีนที่ชอบค่ะ ยากกว่าแต่งฟิคก็คิดชื่อฟิคนี่แหละค่ะ ฟฟฟฟฟ
เชียนหลี่จือไว่
[ 千里之外 ]
อวี้เหวินโจวย่อมคาดเดาได้
หลานซีเก๋อถูกตีแตกพ่ายไปนานหลายสัปดาห์แล้ว ไร้มือเท้า ถูกปิดหูปิดตา ก็ใช่ว่าอ๋องแห่งหลานอวี่จะสิ้นปัญญาไปด้วย
ปลายนิ้วขยับขีดเขียนเส้นสายตัวอักษรลงบนม้วนไผ่ยังคงไว้ด้วยความนิ่งสงบเยือกเย็น หากต้องการให้หูหนวกตาบอดจริงๆ อวี้เหวินโจวมั่นใจว่าต้าอ๋องแห่งซิงซินผู้นั้นมีวิธีการที่เหี้ยมโหดกว่านี้ ไหนเลยจะออกคำสั่งเพียงกักบริเวณตน
การกระทำหลายสิ่งสอดคล้องประจวบเหมาะเกินไป ราวกับมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง
เมืองหน้าด่านถูกตีแตกแล้วไยไม่รุกคืบ
จับกุมตัวอ๋องแห่งหลานอวี่ได้ไยมิเด็ดศีรษะ
พฤติกรรมคล้ายรุนแรง หากไม่เด็ดขาดเช่นนี้ ผิดวิสัยของเยี่ยซิวมากเกินไป
ปลายพู่กันหยุดลง … ตัวอักษรยังไม่ถูกเติมเต็มให้ครบสมบูรณ์
และนานเกินไปสำหรับคนผู้นั้น…
… เจ้าไม่เคยหายไป โดยไร้ข่าวคราวเช่นนี้
… เส้าเทียน …
…………………………
…………..
…….
…
..
.
หวงเส้าเทียนพบว่าตนยังมีชีวิตอยู่
ภายใต้แสงดาราพร่างพราย ดวงจันทร์ในคืนเพ็ญส่องสว่างเยียบเย็น
ชายหนุ่มเบิกตาค้าง มองท้องฟ้าเบื้องบน ด้วยไม่อาจกระดิกกระเดี้ยวได้แม้แต่ปลายนิ้ว ความเจ็บปวดที่เคยด้านชาไปเมื่อตอนหลับใหล พลันฟื้นขึ้นมาด้วย
ร่างกายนี้ยังครบถ้วนมีอวัยวะสามสิบสองไม่ขาดหรือเกิน เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป หากไม่ใช่ว่าเสี้ยววินาทีที่โรมรันพันตูนั้น เขาได้ตัดสินใจพุ่งลงน้ำหวังตายเอาดาบหน้า ยามนี้แผ่นดินคงไร้ชื่อ – อริยดาบ- หวงเส้าเทียนไปแล้ว
ครู่ใหญ่จึงรวบรวมแรงกายได้มากพอแล้วโคจรพลังเพื่อฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บด้วยคมธนู สมกับเป็นมือเกาทัณฑ์หญิงอันดับหนึ่งล้วนแล้วแต่เล็งมาที่จุดตาย พลิกแพลงหลบไปได้ด้วยก้าวเงาดาบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้ทั้งหมด
ข้อดีอย่างเดียวคือลูกธนูทั้งหมดไร้ยาพิษ
เมื่อมิอาจยั้งมือไว้ไมตรี ในฐานะสหายย่อมเหลือทางรอดไว้ให้แก่กัน
ระหว่างที่ร่างของเขาร่วงหล่นลงจากหน้าผาสูงชัน อนุสติอันพร่าเลือนกลับได้ยินเสียงเรียบเฉยคล้ายกับไม่แยแสว่า ‘ไม่ต้องตาม’ ก่อนจะสำนึกรับรู้สุดท้ายเลือนหายไปโดยสมบูรณ์
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เนื้อตัวเปียกโชกไปทั้งร่าง ฝีเท้ายังซวนเซ เดินไปไม่เท่าไหร่ก็กระอั่กเลือดออกมากองโต แล้วล้มลงกับพื้นอีกครั้ง คราวนี้จึงไม่ใจร้อนอีก ทิ้งกายเอนลงแล้วหลับตา
กระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาร่างของเขาปะทะโขดหินโสโครกมากมาย เสื้อผ้าอาภรณ์ขาดรุ่งริ่ง มีร่องรอยขูดข่วนนับไม่ถ้วน ถึงกระนั้นกลับไม่กระทบกระแทกศีรษะหรือส่วนสำคัญจนพิกลพิการ นับว่าฟ้ายังเมตตาปรานีกันบ้าง
หาไม่แล้ว… คงไม่อาจอยู่เคียงข้างคนคนนั้นได้อีก
ความมืดมิดของราตรีกาลโรยตัวเงียบงัน เช่นเดียวกับไอเย็นยามค่ำของป่าเขา หวงเส้าเทียนกลับไม่นำพาต่อความเหน็บหนาวที่เพิ่มมากขึ้นแม้แต่น้อย ยังคงก้าวไปตามแนวของแม่น้ำ อาศัยแสงดาวและความสว่างในคืนเดือนเพ็ญเร่งเดินทาง หมายมาดจะพ้นชายป่าในรุ่งสาง เป้าหมายคือเมืองหลวงหลานอวี่
นึกกลัวเพียงแต่ว่าตัวเขาอาจจะถูกพัดพามาไกลเกินไป
แรงใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้สองเท้าเขายังก้าวต่อไปราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เมืองหน้าด่านหลานซีเก๋อแตกแล้ว ทัพหน้าไร้แม่ทัพเช่นเขาคงยากจะรวบรวมทหาร ภายใต้การนำขบวนของห้ายอดฝีมือ การถอยหนีประชาชนส่วนใหญ่น่าจะปลอดภัยดี
ซูมู่เฉิงเป็นแม่ทัพหญิงแกร่งกล้าเกรียงไกร แต่หาได้โหดเหี้ยมอำมหิตซะทีเดียว คงไม่ไล่ตามกลุ่มผู้คนไร้อาวุธเป็นแน่ ดูจากที่คล้ายจงใจปล่อยให้เขาหนีรอดได้เช่นนี้ เห็นทีว่าเรื่องการตีหลานซีเก๋อมิแคล้วคงมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่าหมายช่วงชิงเขตแดน
เดินจวบจนฟ้าสาง จึงได้มองเห็นควันไฟลิบๆ จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนมีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งไม่ใกล้จากตัวเมืองหลานซีเก๋อนัก กระแสน้ำมิได้พัดพาเขาไปไกลเท่าที่กังวล
หวงเส้าเทียนหยุดพักหายใจที่หมู่บ้านชั่วครู่ ในตัวไม่มีสิ่งมีค่าใด ซ้ำยังสกปรกมอมแมมราวกับคนจรจัดก็ไม่ปาน สะดวกอย่างยิ่งที่จะปั้นแต่งว่าตนพลัดพลงจากครอบครัว หลังจากถูกโจรเขาจู่โจม พรากจากพี่น้อง ไม่รู้เป็นตาย อาศัยท่าทางเซื่องซึมน่าสงสารจึงได้เสื้อผ้าชุดใหม่ เสบียง และตั๋วเงินเล็กน้อย
น้ำใจในครั้งนี้ เขาย่อมไม่มีทางลืมเลือน กลับถึงเมืองหลวงเมื่อใดจะต้องหาหนทางตอบแทนผู้คนเหล่านี้แน่นอน
ระยะทางไปยังเมืองหลวงหลานอวี่นั่น หาได้ยากลำบาก ด้วยดินแดนนี้เป็นภาคกลาง รอยต่อของการสัญจรมีขบวนสินค้าและคณะเดินทางผ่านไปมา มีทางเท้า ทางที่นำรถม้าวิ่งผ่านได้ด้วยซ้ำ
หากหวงเส้าเทียนกลับไม่ไว้วางใจสถานการณ์ระหว่างแคว้นในตอนนี้ ไม่เพียงกองกำลังของซิงซินที่อาจจะยังลาดตระเวนอยู่ แต่ทหารเจียซื่อที่กระจัดกระจายอยู่ก็ไม่อาจดูแคลน จึงเลือกใช้เส้นทางลดเลี้ยวซับซ้อน ซึ่งติดตามได้ยาก กลบเกลื่อนร่องรอยได้ง่าย
ซ้ำยามนี้เขาเป็นชายหนุ่มที่เดินทางเพียงลำพัง สะดุดตาเกินกว่าจะใช้เส้นทางที่ตัดผ่านกลางเมือง แม้ใช้เวลาหลายวัน แต่ก็ไม่โดนกลุ่มกองกำลังของผู้ใดโจมตีระหว่างทาง สามารถเล็ดลอดเข้าเขตเมืองชั้นในได้อย่างไม่สะดุดตา อาศัยชาวบ้านและขบวนสินค้าที่ผ่านเข้าออก แฝงตัวปะปนไปกับผู้คนเล็ดลอดเข้าสู่กำแพงเมืองได้สำเร็จ
การแทรกซึมของทหารซิงซินมีทุกตรอกซอกซอย ยังดีที่เป็นเพียงทหารระดับล่าง หาใช่ระดับแม่ทัพนายกองที่เคยเห็นหน้าค่าตากัน หาไม่แล้วตัวเขาที่ไร้อาวุธคู่มือคงยากจะตีฝ่าไปได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้คือข่าวสารสอบถามจากชาวบ้านที่ร่วมทางก็ได้เพียงเรื่องราวทั่วไป จำเป็นต้องตามหาคนของหลานอวี่ที่ยังแฝงตัว ซุ่มรอโอกาสอยู่
ครั้นพาตัวเองเข้าโรงเตี๊ยมอันพลุกพล่านกลับพบเจอกลุ่มคน… หรือจะพูดให้ถูกต้องคือคนสองคน
หวงเส้าเทียนทอดสายตาไปรอบๆ อย่างพิจารณา ค้นพบได้ไม่ยากเย็นว่าจุดร่วมสายตาของคนกว่าครึ่งจดจ่ออยู่ที่มุมหนึ่ง
แสงแดดอ่อนจางของยามอรุณรุ่งทอทอดผ่านหน้าต่าง ตกกระทบใบหน้าหมดจดอ่อนเยาว์ดวงหนึ่งของร่างเพรียวบางในชุดอาภรณ์เรียบง่าย แต่กลับดูคล้ายคุณหนูในห้องหอที่แอบเร้นกายจากคฤหาสน์งามออกมาเผชิญโลกภายนอกอย่างไรอย่างนั้น
เสี่ยวหลานเอยเสี่ยวหลาน…
รู้ตัวหรือไม่ว่าใบหน้าเช่นนั้นเป็นภัยต่อตนเองยิ่งนัก
tbc.
talk zone : ความดองเค็มนี้…. สองเดือนนิดๆ ได้อะค่ะจากบทนำ //ซับ อาจจะงงๆ ไปบ้าง ทำสมุดจดพล็อตเรื่องนี้หายค่ะ ปะติดปะต่อจากความทรงจำที่เคยเมาๆ ไว้ อาจจะมีกลับมาแก้ทีหลังนะคะ 555555555555555+